วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

นิเทศติดตามการดำเนินงาน กศน.ตำบล

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557 ผอ.กาเรียน  ยืนยงชาติ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอชำนิ นายณฤทธิ์  พูนกลาง ครู คศ.1 นายมณฑล  เกียรติคุณศิริ และนางละเอียด  คงเป็นนิจ ครูอาสาฯ ตรวจเยี่ยม ติดตามการดำเนินงาน กศน.ตำบลชำนิ


















โครงการ"นั่งอ่านให้เท้าอุ่น"

กศน.ชำนิ นำทีมโดย ผอ.กาเรียน  ยืนยงชาติ จัดกิจกรรมโครงการ "นั่งอ่านให้เท้าอุ่น" โดยมีกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้และมอบถุงเท้า อุปกรณ์การเรียน ให้กับน้องๆโรงเรียนหนองเพิก ตำบลละลวด อำเภอชำนิ  โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก ผอ.สุรพล  ด่านแก้ว คณะครูและนักเรียนโรงเรียนหนองเพิก



















เตรียมความพร้อม ห้องสมุดชุมชน หมู่7 หนองตะเคียน









วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีพระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าวช่วยเหลือราษฎรประสบอุทกภัยที่ จ.บุรีรัมย์

        พลเอกเจษฎา ศรีสุภาพ รองสมุหราชองครักษ์ ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมด้วยนายลลิต ถนอมสิงห์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นประธานในพิธีมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทาน แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย อำเภอลำปลายมาศและอำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ ที่วัดทุ่งสว่างแท่นพระ โรงเรียนบ้านหนองโดนประสาทวิทย์ อำเภอลำปลายมาศ และศาลาอเนกประสงค์บ้านโนนน้ำอ้อม อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ 
        สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยราษฎร ในเขตพื้นที่ดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากราษฎรในพื้นที่มีรายได้หลักจากการทำนาข้าวหอมมะลิ ซึ่งส่วนใหญ่ปลูกได้เพียงปีละหนึ่งครั้ง เมื่อประสบเหตุอุทกภัยราษฎรจึงสูญเสียรายได้หลักทั้งปีของตนไป จึงมีกระแสรับสั่งให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดหาพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 ที่มีคุณภาพดีและได้มาตรฐานเพื่อพระราชทานแก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนที่นาถูกน้ำท่วมเสียหาย ซึ่งมูลนิธิชัยพัฒนาได้นำเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 จากศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสุรินทร์ จำนวนทั้งสิ้น 185.6 ตัน เพื่อมอบให้แก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยในจังหวัดบุรีรัมย์ แบ่งเป็นราษฎรตำบลหนองคู อำเภอลำปลายมาศ 74 ราย ราษฎรตำบลหินโคน อำเภอลำปลายมาศ 262 ราย ราษฎรตำบลบ้านยาง อำเภอลำปลายมาศ 290 ราย ราษฎรตำบลหนองโดน อำเภอลำปลายมาศ 364 ราย และราษฎรบ้านโนนน้ำอ้อม ตำบลชำนิ อำเภอชำนิ จำนวน 44 ราย เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือนร้อนและเพื่อใช้เพาะปลูกสำหรับฤดูกาลทำนาในครั้งต่อไป